การบำรุงรักษาระบบ ISO: ให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องการจัดทำระบบ ISO นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการ บำรุงรักษาระบบ ให้ทำงานได้อย่าง

มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน

     การบำรุงรักษาระบบ ISO นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กร เนื่องจากเป็นการ รักษาความต่อเนื่อง และ ปรับปรุงประสิทธิภาพ ของระบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ และเพื่อให้

ได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนในการจัดทำระบบ ISO

 

เหตุผลที่ต้องบำรุงรักษาระบบ ISO:

รักษาใบรับรอง:

การบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้องค์กรสามารถรักษาใบรับรอง ISO ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล

ปรับปรุงกระบวนการทำงาน:

การตรวจสอบและปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้องค์กรค้นพบปัญหาและจุดบกพร่องในการทำงาน และนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า:

ระบบ ISO ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถผลิตสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของลูกค้า และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

ลดความเสี่ยง:

การบำรุงรักษาระบบจะช่วยให้องค์กรสามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่ร้ายแรง ส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การสูญเสียทรัพย์สิน หรือความ

เสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน:

องค์กรที่มีระบบ ISO จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้ามากขึ้น เนื่องจากเป็นการยืนยันถึงคุณภาพของสินค้าและบริการ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

สร้างภาพลักษณ์ที่ดี:

การมีระบบ ISO จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้องค์กรดูเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

 

การบำรุงรักษาระบบ ISO ทำอย่างไร?

การตรวจสอบภายใน: องค์กรควรมีการตรวจสอบภายในระบบ ISO อย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบและตรวจสอบความสอดคล้องกับมาตรฐาน

 

การฝึกอบรมพนักงาน: พนักงานทุกคนในองค์กรควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับระบบ ISO เพื่อให้มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง

การอัปเดตเอกสาร: เอกสารที่เกี่ยวข้องกับระบบ ISO เช่น คู่มือคุณภาพ ขั้นตอนการทำงาน ควรได้รับการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

การประชุมทบทวนการจัดการ: องค์กรควรจัดประชุมทบทวนการจัดการระบบ ISO อย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของระบบและวางแผนการปรับปรุง

การแก้ไขปัญหา: เมื่อพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในระบบ ควรมีการวิเคราะห์หาสาเหตุและดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที

 

สรุป: การบำรุงรักษาระบบ ISO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบำรุงรักษา

ระบบ ISO สามารถสอบถามได้เลยครับ

 

 

ข้อดีของการใช้บริการที่ปรึกษาช่วยดูแลบำรุงรักษาระบบ ISO

การมีที่ปรึกษาช่วยดูแลบำรุงรักษาระบบ ISO นั้นเปรียบเสมือนการมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและสนับสนุนองค์กรในการรักษามาตรฐานและพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะนำมาซึ่ง

ประโยชน์มากมาย ดังนี้

 

1. ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง:

เข้าใจมาตรฐานลึกซึ้ง: ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์จะเข้าใจรายละเอียดของมาตรฐาน ISO ต่างๆ อย่างถ่องแท้ สามารถนำองค์กรไปสู่การปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างถูกต้องและครอบคลุม

อัปเดตข้อมูลล่าสุด: ที่ปรึกษาจะติดตามการเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ

ประสบการณ์หลากหลาย: ที่ปรึกษาได้ทำงานกับองค์กรหลากหลายประเภท ทำให้สามารถนำประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่ดีมาปรับใช้กับองค์กรของคุณได้

 

2. มองเห็นภาพรวมและจุดอ่อน:

วิเคราะห์ระบบอย่างละเอียด: ที่ปรึกษาจะทำการวิเคราะห์ระบบปัจจุบันขององค์กรอย่างละเอียด เพื่อระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และช่องว่างที่ต้องปรับปรุง

ให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์: ที่ปรึกษาจะให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ในการปรับปรุงระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กร

ป้องกันปัญหา: ที่ปรึกษาสามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า และให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

 

3. ประหยัดเวลาและทรัพยากร:

ลดความผิดพลาด: ที่ปรึกษาจะช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการตีความมาตรฐานผิดพลาด หรือการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ที่ปรึกษาจะช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสูญเสียเวลาและทรัพยากร

มุ่งเน้นงานหลัก: พนักงานในองค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่งานหลักของตนเองได้มากขึ้น เนื่องจากมีที่ปรึกษาคอยดูแลเรื่องระบบ ISO

 

4. เพิ่มความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี:

ยกระดับมาตรฐานองค์กร: การมีที่ปรึกษาจะช่วยยกระดับมาตรฐานขององค์กรให้สูงขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและคู่ค้า

สร้างความประทับใจให้กับผู้ตรวจประเมิน: ที่ปรึกษาจะช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจประเมินของหน่วยงานรับรอง ทำให้การตรวจประเมินผ่านไปได้ด้วยดี

เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: องค์กรที่มีระบบ ISO ที่ได้รับการดูแลโดยที่ปรึกษา จะมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น

 

สรุป: การใช้บริการที่ปรึกษาช่วยดูแลบำรุงรักษาระบบ ISO นั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้องค์กรสามารถรักษามาตรฐาน ISO ได้อย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงประสิทธิภาพ

การทำงาน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและคู่ค้า

 

บริการดูแล บำรุงรักษา ดูแลระบบบริหารงานคุณภาพ ราย 6 เดือน / 1 ปี


ที่ปรึกษาจะใช้ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณจะพัฒนาไปในแนวทางดี ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
โดยดูแลแนะนำแต่ละขั้นตอนให้องค์กรสามารถนำไปใช้งาน

ทำงานบรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ และเพื่อสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร มีการประเมินอย่างต่อเนื่องแก้ไขและปรับปรุงการดำเนินงานและกระบวนการต่างๆ

 

GSMs จะช่วยคุณ

1. กำหนดกลยุทธ์

2. เป้าหมายธุรกิจ

3. วัตถุประสงค์คุณภาพ KPIs

4. ควบคุมความเป็นปัจจุบันของเอกสารในองค์กร

5. กิจกรรมตรวจติดตามภายในองค์กร

6. แก้ไขความไม่สอดคล้อง (CAR)

7. จัดทำรายงานประชุมทบทวนฝ่ายบริหาร

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้ GSMs

1. ค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสวัสดิการต่างๆอาทิเช่น ค่าประกันสังคม โอที โบนัส หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในออฟฟิศ

2. ที่ปรึกษามีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว เสร็จตรงตามแผนงานที่กำหนด

3. ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา สกิลที่จำเป็นบางอย่างหลายบริษัทคงเจอปัญหาขาดบุคลากรที่เหมาะสมดังนั้นหากต้องส่งพนักงาน

ไปเรียนรู้ตั้งแต่ต้องจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และยังรบกวนเวลางานอื่นๆอีกด้วย

4.ไม่ต้องกังวลเมื่อถึงเวลาการ Audit จากหน่วยงานภายนอก (CB)

5.มีการรายงานผล ประสิทธิภาพของการจัดการอย่างเป็นระบบ

6. สัญญามีความยืดหยุ่น

 

 

ขอบเขตการให้บริการ

ปรับปรุงเอกสารคุณภาพในระบบให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง

สร้างมาตรฐานการดำเนินงานของแต่ละแผนก

จัดประชุมทบทวนฝ่ายบริหาร (MANAGEMENT REVIEW)

อบรมความรู้ความเข้าใจด้านระบบ ISO 9001:2015

อบรมคณะกรรมการตรวจติดตามภายในองค์กร (IQA)

นำทีม ตรวจติดตามคุณภาพภายในบริษัทฯ

จัดเตรียม และ สรุปผล การตรวจติดตามภายในองค์กร

กำหนด ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพภายในองค์กร (KPIs)

ติดตามแผนการดำเนินการ สรุปผล KPIs แต่ละเดือน

ติดตามผลการตอบกลับ Corrective Action Request (CAR)

ประสานงานติดต่อหน่วยงานให้การรับรอง (CB-Certify Body)

รายงาน Document Control Update

รายงาน Corrective Action Request

 

 

 

 

 

                                                                                

   

ตัวอย่าง Action plan Maintain QMS for ISO 9001:2015

ให้บริการ เดือนละ 4 วัน ตลอดระยะเวลา 1 ปี 

หัวข้อ ผลลัพธ์ที่ได้ แผนการดำเนินงาน
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
1.ประเมินความเสี่ยงและโอกาส ระดับบริษัทองค์กรและหน่วยงาน
เอกสารรายงานการประเมินความเสี่ยงและโอกาศประจำปี                        
2.กำหนดทิศทางเป้าหมาย นโยบายและวัตถุประสงค์คุณภาพ
 Vision, Mission, Policy, Objectives, KPIs
                       
3.ประเมินความเสี่ยงและโอกาสของแต่ละหน่วยงาน
เอกสารรายงานการประเมิณความเสี่ยงและโอกาสประจำปี                        
4. สำรวจความเป็นปัจจุบันเอกสาร การจัดการระบบมาตรฐานแต่ละแผนกหน่วยงาน เอกสารมาตรฐาน ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นปัจจุบัน
                       
5.ติดตาม สรุปผลการปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์คุณภาพ
 รายงานวัตถุประสงค์คุณภาพ ในแต่ละไตรมาส
                       
6.ดำเนินกิจกรรม ตรวจติดตามภายใน ( Internal audit )
 รายงานผลการตรวจติดตาม
                       
7.ติดตามการแก้ไขประเด็น ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ISO 9001
 รายงานการดำเนินการแก้ไขสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
                       
8.ประชุมทบทวนฝ่ายบริหาร
 รายงานการประชุมทบทวนฝ่ายบริหาร
                       
9.ตรวจรับรองระบบ ISO 9001:2015
รายงานการตรวจรับรองระบบ ISO 9001:2015
                       
10.ดำเนินการแก้ไขสิ่งที่ไม่สอดคล้องจาก CB audit
รายงานการดำเนินการแก้ไขสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
                       

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 114,444